วันศุกร์ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2555

กรุวัดชะเมา (พระเชียงแสน)

  ..... วันนี้ได้พบได้เห็น พระในกรุวัดชะเมามาอีกแล้วครับ นอกจาก  พระยอดธงแล้ว ยังมีพระเชียงแสนอีกมากมาย อย่างไม่น่าเชื่อ ทำไปทำมากรุนี้คงเป็นกรุยุคเชียงแสนกระมัง  .... สำหรับพระยอดธงที่พบในกรุขณะนี้  พบว่ามีอยู่ด้วยกัน 2 พิมพ์ คือ พิมพ์เล็ก กับ พิมพ์ใหญ่ พิมพ์เล็ก แบ่งออกเป็น 2 พิมพ์ คือ พิมพ์หน้าเล็ก กับพิมพ์หน้าใหญ่ ซึ่งพิมพ์หน้าใหญ่จะมีแบบบุทองคำ กับ ไม่บุทองคำ เนื้อสามกษัตริย์ ส่วนพิมพ์หน้าเล็ก จะมีเนื้อแก่ทองมาก แก่ทองน้อย  เนื้อเงิน  และเนื้อทองแดง  ครับผม  ส่วนพิมพ์ใหญ่ที่พบ  จะเป็นพระยอดธงแบบเชียงแสน แต้ ๆครับ  คราบกรุไม่ต้องพูดถึง เด็ดขาดจริง ๆ ครับ ......

ศิลปะสมัยเชียงแสน – โยนก   
พุทธศตวรรษที่ 16-20  หรือศิลปะล้านนาไทย 
          เรียกตามชื่อเมืองโยนกเชียงแสนซึ่งปรากฏซากเมืองตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขงท้องที่อำเภอเชียงแสนจังหวัดเชียงรายในปัจจุบัน เมืองดังกล่าวนี้ เคยเป็นราชธานีและเมืองสำคัญของไทยในสมัยแรกที่ตั้งมั่นขึ้นในสุวรรณภูมิตามความเป็นจริงแล้วคนไทยที่มาตั้งมั่นอยู่ในแถบนี้ได้โยกย้ายบ้านเมืองและสร้างราชธานีหลายหนเพราะเหตุที่มีอุทกภัยน้ำในแม่น้ำโขงไหลบ่าขึ้นมาท่วมบ้านเมืองเสียหายบ่อยๆคำว่าโยนกเชียงแสนที่กล่าวในที่นี้จึงกล่าวเพื่อความสะดวกในการกำหนดเรียกชื่อศิลปกรรมแบบที่สร้างในระยะที่โยนก( เมืองสมัยก่อนเชียงรายราวพ.ศ.1300-1600)และเชียงแสนเป็นราชธานี(พ.ศ.1600-1800)ตลอดจนมาถึงเชียงใหม่เป็นราชธานีของอาณาจักรล้านนาในชั้นหลังด้วย  

      ศิลปะล้านนา หรือ ศิลปะเชียงแสน มีลักษณะเก่าแก่มาก  คาดว่ามีการสืบทอดต่อเนื่องของศิลปะทวาราวดี และลพบุรี ในดินแดนแถบนี้มาตั้งแต่สมัยหริภุญชัย   ศูนย์กลางของศิลปะ ล้านนาเดิมอยู่ที่เชียงแสน    เรียกว่าอาณาจักรโยนก ต่อมาเมื่อ   
พญามังราย ได้ย้ายมาสร้างเมืองเชียงใหม่    ศูนย์กลางของของอาณาจักรล้านนาก็อยู่ที่ เมืองเชียงใหม่สืบต่อมาอีกเป็นเวลานาน


             ........ เริ่มทัศนากันเลยนะครับ.....  

ชุดนี้เป็นชุดที่อยู่ในชั้นดินลึกประมาณ 4 เมตร   ขนาดห้อยคอประมาณ 1 นิ้ว กว่า ๆ
              
องค์แรกเป็นพระยอดธงเชียงแสนครับ... นับเป็นพระยอดธงแบบพิมพ์ใหญ่ในกรุนี้




       
มีรูปที่ล้างแล้วด้วยครับ....



         องค์ที่ ๒ ......เป็นสิงห์หนึ่งปางสมาธิครับ ด้านล่างใต้ฐานทำเป็นรูสัณฐานรี ไม่ทราบเจตนา....ใครรู้ช่วยบอกทีครับ....




องค์ที่ ๓ .......สันนิษฐานกันว่าเป็นพระอุปคุต อุ้มบาตร
หรืออาจจะเป็นพระสิวลีอุ้มบาตร  ครับ...




         องค์ที่ ๔...... มาแปลกไปเลยครับ ....... เป็นพระพิฆเนศ ขนาด ๑ นิ้ว รูปทรงท่านสง่าและงดงามมากครับ......




  
มีตัวอย่างองค์ที่ล้างแล้วมาโชว์ด้วยครับ...(ยืมภาพเค้ามาลง)
พระพิฆเณศวร์ ปางประทานพร มือซ้ายถือลูกแก้วสมปราถนา...

                        
   สวยไหมครับ........

องค์ที่ ๕........ เป็นพระยืนเชียงแสน ปางห้ามสมุทรครับ...
ขนาดประมาณสองข้อนิ้วชี้ เลี่ยมแล้วห้อยกำลังดีเลยครับ........ งามจริง ๆ .....



     
    สำหรับองค์ที่ ๖......   ถือเป็นสุดยอดสำหรับวันนี้เลยก็ว่าได้ครับ.....พระนาคปรกเชียงแสนโบราณ ปางประทานพร (นั่ง ) ขนาด กว้าง ๓ นิ้ว สูง เกือบ ๖ นิ้ว........... (ผิดพลาดประการใด
ช่วยแนะนำด้วยครับ...) *** มีผู้ให้ข้อมูลใหม่ว่าเป็น พระทวารวดี นั่งปางประทานอภัย ครับ ***




       และองค์ที่ ๗......... ผมถือว่า่ เป็นสุดยอดอีกเหมือนกัน....
พระเทริด ทรงเครื่อง ปางห้ามสมุทร ขนาดสูง  ๕.๕ นิ้ว 
ครับ...........





        วันนี้คงพออก พอใจกันพอสมควรนะครับ........
ยังมีของแปลกอีกเยอะในกรุนี้ ....... ผมเองคาดไม่ถึงจริง ๆ
คราวหน้าจะพาไปเที่ยววัดประตูเขียน (วัดชะเมา) กันครับ ไปดูกันให้ จะ จะ กันเลยว่า ที่ว่ากรุแตก แตก ตรงไหน ใครขุด......