ถึงคราวนักขุดชุด A กันละครับ.....
คราวที่แล้วให้เป็นนักขุดชุด B ก็แล้วกัน
สัมภาษณ์กันอยู่นาน....ชาด นก หนุ่ย กบ ชาญ พระ ๑ และเณร ๑
แต่ที่ลงไปอยู่ในหลุ่มจริง ๆ ก็คือ ๕ คนแรกที่กล่าวมา ผลัดกันขุด
ทุกครั้งที่ขุดจะอยู่ในการควบคุมดูแลของหลวงพ่อ
หลังจากพบพระหล่นลงมาจากองค์พระสูงในตอนยกย้ายท่านแล้ว
จากนั้นก็ใช้รถแมคโครตักดินขุดรอบบริเวณฐานโบสถ์เก่า
ประมาณ ๒ เมตรเก็บพระกรุได้ประปราย
พระกรุนี้ใช้เวลาขุดอยู่ประมาณ ๑๕ วัน
เริ่มขุดกันตั้งแต่ประมาณ ๕ โมงเย็น ถึงประมาณ ๒ ทุ่มกว่า ๆ
ขุดบริเวณใต้ฐานองค์พระสูง อยู่เกือบ ๑๐ วันก็ยังไม่พบ
จนกระทั่งวันที่ ๑๑ ขุดลึกลงไปอีก ๒ เมตร
จึงพบโพรงดินเป็นหลุมขนาดพอจุคนได้ ๒ คน
ในหลุมมีใหสภาพแตกหักอยู่ ๓ ใบที่บรรจุพระยอดธง
และบาตรสภาพเดียวกันบรรจุพระยอดธงบุทองคำ
และที่เป็นทองคำตัน ไม่ต่ำกว่า ๕๐ องค์
ส่วนพระบูชาหน้่าตัก ๓ นิ้ว ๕ นิ้ว ส่วนใหญ่ชำรุดเสียหาย
ขาหัก แขนหัก เศียรหัก ไปตามสภาพ
และพระแบบต่างๆ มากมาย มีทั้งศิลปะเชียงแสน และศิลปะทวารวดี
รวมทั้ง เหรีญเงินโบราณ หินสีหรือที่เรียกกันว่ามณีนาคราช
หลายร้อยเม็ด กระจัดกระจายอยู่ทั่วไป
โดยนักขุดช่วยกันโกยใส่ถ้งและส่งขึ้นมาบนปากหลุม
จากนั้นก็จะมีคนช่วยฉีดน้ำล้างขี้ดินขี้ทราย
แล้วยกไปเก็บไว้ที่กุฎิเจ้าอาวาส จากนั้นก็ขุดต่อกันไปอีก ๒-๓ วัน
ลึกลงไป ลึกลงไป น้ำก็เริ่มซึมเข้ามาจากผนังในโพรงที่ขุด
จนกระทั่งไม่สามารถขุดต่อได้ จึงทำการกลบหลุ่ม.....
ช่วงนี้บรรดา นักขุดหายหน้าหายตากันไปหมด.....
กระจัดกระจายอยู่ กทม.บ้าง, ตรังบ้าง, พัทลุงบ้าง
มีอยู่คนหนึ่งนำพระพุทธรูปปางสมาธิ เนื้อดินเผา
หน้าตัก ๕ นิ้ว มาให้ดูอยู่องค์หนึ่ง...
บอกว่าขุดพบที่วัดชะเมา แต่จมูกหักหายไป
เลยไม่รับของไว้......ช่วงนี้หาของลงเว็บค่อนข้างยาก.....
เพราะผู้ครอบครองพระกรุนี้เริ่มเก็บตัว ไม่ปล่อยของออกมา
ถ้ามาเสนอคราวหน้าจะถ่ายรูปลงเว็บเก็บไว้ให้ดูกันครับ......
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น